วันที่นำเข้าข้อมูล 17 ต.ค. 2567
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 18 ต.ค. 2567
ดิฉันรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดิฉันดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต คณะผู้แทนถาวรไทยประจำอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา โดยดิฉันได้เดินทางมารับตำแหน่งเมื่อเดือนเมษายน 2567 ที่ผ่านมา
นับตั้งแต่การก่อตั้งอาเซียนเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2510 ที่กรุงเทพฯ อาเซียนเป็นเสาหลักที่สำคัญของนโยบายต่างประเทศของไทยมาโดยตลอด ไทยเป็นหนึ่งใน 5 ประเทศผู้ก่อตั้งอาเซียน (ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์) และมีบทบาทในการขับเคลื่อนอาเซียนให้เจริญก้าวหน้า เป็นปึกแผ่น และได้รับการยอมรับจากประชาคมโลก โดยอาเซียนได้เปลี่ยนสมรภูมิรบให้เป็นพื้นที่แห่งความร่วมมืออย่างสร้างสรรค์ ความเป็นปึกแผ่นช่วยให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีเสถียรภาพ สันติภาพ ความมั่งคั่ง และมีพลังในการต่อรองกับประเทศมหาอำนาจ
เกือบ 6 ทศวรรษที่ผ่านมา อาเซียนก้าวผ่านความท้าทายหลากรูปแบบ มีจำนวนประเทศสมาชิกเพิ่มขึ้นอีก 5 ประเทศ (บรูไนฯ เวียดนาม ลาว เมียนมา กัมพูชา) รวมเป็น 10 ประเทศ มีข้อริเริ่มและความสำเร็จมากมาย อาทิ การรับรองกฎบัตรอาเซียน การก่อตั้งประชาคมอาเซียน การกำหนดวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน การรับรองเอกสารทรรศนะอาเซียนว่าด้วยอินโด-แปซิฟิก รวมทั้งการจัดตั้งกลุ่มความร่วมมือระดับภูมิภาค อาทิ การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และกรอบอาเซียนบวกสาม ซึ่งไม่เพียงเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับประเทศภาคีภายนอกเท่านั้น แต่ยังช่วยลดการเผชิญหน้าระหว่างมหาอำนาจและเสริมสร้างความร่วมมือที่เอื้อประโยชน์ต่อทุกฝ่าย นอกจากนี้ อาเซียนได้ผลักดันข้อริเริ่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจที่สำคัญเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีพลวัต เช่น เขตการค้าเสรีอาเซียน และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค ซึ่งช่วยเชื่อมโยงเศรษฐกิจอาเซียนกับตลาดโลกและผลักดันให้อาเซียนเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนที่สำคัญในภูมิภาค
ในวาระการดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรฯ ดิฉันมุ่งมั่นจะผลักดันข้อริเริ่มและผลประโยชน์ของไทยในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญของอาเซียน โดยอาเซียนอยู่ระหว่างการจัดทำวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ. 2045 ซึ่งจะกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนอาเซียนในอีก 20 ปี ต่อจากนี้ ให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมีความยืดหยุ่น มีนวัตกรรม มีพลวัต และมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง นอกจากนี้ อีกภารกิจที่สำคัญในวาระการดำรงตำแหน่งของดิฉัน คือการทำหน้าที่เป็นประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี ระหว่าง 2567-2570 และการเป็นผู้ประสานงานของอาเซียนในด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน ผ่านกลไกคณะกรรมการผู้แทนถาวรประจำอาเซียน โดยดิฉันจะส่งเสริมความร่วมมือที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกันของไทยกับประเทศสมาชิกอาเซียนและภาคีภายนอก เพื่อการสร้างเสริมสวัสดิภาพและความกินดีอยู่ดีของประชาชนอาเซียน รวมทั้งรักษาไว้ซึ่งความเป็นแกนกลางของอาเซียน
ในนามของคณะผู้แทนถาวรไทยประจำอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา ดิฉันและข้าราชการทุกคนที่คณะผู้แทนถาวรไทยฯ ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนอาเซียนในช่วงเวลาที่สำคัญนี้ และจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังต่อไป ขอบคุณค่ะ
เมษายน 2567
รูปภาพประกอบ